วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Long Term Evolution

ที่มา SearchMobileComputing.com

Long Term Evolution (LTE) เป็นเทคโนโลยีบรอดแบนด์ (broadband) ไร้สาย 4 จี ที่พัฒนาโดย Third Generation Partnership Project (3GPP) ซึ่งเป็นกลุ่มการค้าอุตสาหกรรม

วิศวกร 3GPP ตั้งชื่อเทคโนโลยีนี้เป็น “Long Term Evolution” เพราะเป็นการนำเสนอถึงความก้าวหน้าขั้นต่อไป (4 จี) มาจาก GSM ที่เป็นมาตรฐาน 2 จี มาเป็น UMTS เทคโนโลยี 3 จีบนพื้นฐานของ GSM เทคโนโลยี LTE ให้การเพิ่มอัตราข้อมูลสูงสุดอย่างมีนัยยะ ด้วยศักยภาพ 100 Mbps ด้าน downstream และ 30 Mbps ด้าน upstream ลดสิ่งซ่อนเร้น ปริมาณแถบความถี่ขยายได้ และความสอดคล้องย้อนกลับกับเทคโนโลยี GSM และ UMTS การพัฒนาในอนาคตจะสามารถสูงสุดถึง 300 Mbps

ชั้นบนของ LTE อยู่บนฐาน TCP/IP ซึ่งจะเหมือนกับเครือข่าย IP ทั้งหมดแบบเดียวกับสถานะปัจจุบันของการสื่อสารด้วยสาย LTE จะสนับสนุนการผสมข้อมูล messaging เสียง และวิดีโอ LTE ใช้เทคโนโลยีเสาอากาศ OFDM (Orthogonal Frequency Division Multiplexing) และรุ่นต่อมา MIMO (Multiple Input Multiple Output) ที่เหมือนกับการใช้ในมาตรฐานไร้สายท้องถิ่น (WLAN) IEEE 802.11n อัตราสัญญาณต่อสิ่งรบกวน (signal to noise ratio หรือ SNR) สูงกว่าที่ด้านรับเป็นความสามารถของ MIMO ตลอดจนถึง OFDM จะให้การปรับปรุงครอบคลุม โดยเฉพาะความหนาแน่นในเขตเมือง

LTE มีกำหนดเปิดตัวเชิงพาณิชย?ในปี 2553 โดย Verizon Wireless และ AT&T Wireless ด้าน T-Mobile และ Alltel ประกาศแผนใช้งาน 4 จีบนฐาน LTE ด้วย เครือข่ายเหล่านี้จะแข่งขันกับ WiMAXของ Clearwire สำหรับด้านวิสาหกิจและผู้บริโภคไร้สายบอร์ดแบนด์ ตลาดการสื่อสารนอกสหรัฐ GSM เป็นมาตรฐานครอบงำ ด้วยผู้ใช้โทรศัพท์เซลลูลาร์ร้อยละ 80 ทั่วโลก ดังนั้น HSDPA และ LTE ในรุ่นต่อมา เป็นทางเลือกด้านเทคโนโลยีบอร์ดแบนด์ไร้สายสำหรับผู้ใช้ Nortel และผู้ค้าด้านโครงสร้างพื้นฐานอื่นกำลังเน้นหนักความพยายามด้านวิจัยและ พัฒนาเพื่อสร้างสถานีฐาน LTE เพื่อให้พบกับความต้องการที่คาดไว้ เมื่อมีการนำมาใช้ LTE มีศักยภาพในการนำเครื่องคอมพิวเตอร์แพร่กระจายไปสู่ผู้ชมทั่วโลก ในประสบการณ์คล้ายการสื่อสารมีสายสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในทุกที่